ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีการสร้างภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์ได้ก้าวกระโดดจากการเป็นเพียงการทดลองสนุก ๆ ของนักวิจัย ไปสู่การเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทั้งนักออกแบบ ศิลปิน นักการตลาด และแม้แต่ผู้ใช้ทั่วไปต่างหยิบมาใช้กันอย่างแพร่หลาย

ความสามารถในการพิมพ์เพียงไม่กี่คำแล้วได้ภาพที่ดูเหมือนงานศิลป์ชั้นยอดนั้นเป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ

แต่ในความจริงแล้ว หลายครั้งผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่สวยงามหรือไม่ตรงใจเท่าที่หวังไว้

ปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากข้อจำกัดของผู้ใช้ที่ “ไม่มีทักษะพิเศษ” เท่านั้น หากแต่เกิดจากการขาดกลยุทธ์ในการเขียนคำสั่งหรือ prompt ที่ดี และการเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับงาน

การสร้างภาพด้วย AI จึงไม่ใช่เพียงการกดปุ่มแล้วรอผลลัพธ์ แต่เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความเข้าใจ ความคิดสร้างสรรค์ และการปรับแต่งอย่างต่อเนื่อง

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับเครื่องมือยอดนิยม เทคนิคการเขียน prompt ให้ทรงพลัง วิธีการแก้ไขภาพหลังการสร้าง และข้อควรระวังด้านจริยธรรมและกฎหมาย เพื่อให้คุณสามารถยกระดับผลงานจาก “ภาพธรรมดา” ไปสู่ “ภาพที่น่าทึ่ง” ได้จริง

เลือกเครื่องมือที่เหมาะกับงาน

การเริ่มต้นสร้างภาพด้วย AI จำเป็นต้องเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณ ปัจจุบันมีหลายโปรแกรมที่โดดเด่น โดยแต่ละตัวมีจุดแข็งและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน

หนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงคือ DALL-E 3 จาก OpenAI ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่พัฒนา ChatGPT

จุดเด่นของ DALL-E คือความสามารถในการตีความ prompt ที่ซับซ้อนได้อย่างแม่นยำ และยังมีระบบสนทนาแบบต่อเนื่องที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขหรือปรับปรุงภาพได้ทันทีหลังการสร้าง ถือเป็นเครื่องมือที่มีความคิดสร้างสรรค์สูงและเหมาะกับผู้ที่ต้องการงานคุณภาพ

อย่างไรก็ตาม การเข้าถึง DALL-E ต้องสมัครสมาชิก ChatGPT Plus ในราคา 20 ดอลลาร์ต่อเดือน

สำหรับผู้ที่มองหาทางเลือกฟรี Leonardo AI ซึ่งปัจจุบันถูกซื้อกิจการโดย Canva ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ Leonardo มีแผนใช้งานฟรีที่ค่อนข้างครบถ้วน พร้อมเครื่องมือปรับปรุง prompt อัตโนมัติที่สามารถเปลี่ยนไอเดียเรียบง่ายให้กลายเป็นคำสั่งที่ละเอียดและสวยงามมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีสไตล์ศิลปะให้เลือกหลากหลาย เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทดลองโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

อีกหนึ่งทางเลือกคือ Google Gemini ที่มาพร้อมโมเดลใหม่ชื่อ “nano banana” แม้ชื่อจะฟังดูแปลก แต่ความสามารถในการแก้ไขภาพถ่ายที่มีอยู่แล้วและการสร้างภาพใหม่ก็ถือว่าทำได้ดี ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้ในราคา 20 ดอลลาร์ต่อเดือน

สำหรับผู้เริ่มต้นที่ไม่มีพื้นฐานด้านการออกแบบเลย Canva เองก็มีเครื่องมือชื่อ Magic Media Generator ที่ใช้งานง่ายมาก เพียงใส่คำสั่งไม่กี่คำก็สามารถสร้างภาพได้ทันที

โดย Canva แจกเครดิตฟรี 50 ครั้งสำหรับการสร้างภาพ ซึ่งเพียงพอสำหรับการทดลองและเรียนรู้เบื้องต้น

ศิลปะการเขียน Prompt

หัวใจสำคัญของการสร้างภาพด้วย AI อยู่ที่การเขียน prompt หรือคำสั่งที่เราป้อนให้ระบบ

การเขียน prompt ที่ดีไม่ใช่แค่บอกว่า “อยากได้ภาพแมว” แต่ต้องใส่รายละเอียดที่ช่วยให้ AI เข้าใจภาพในจินตนาการของเราได้ชัดเจนมากขึ้น

องค์ประกอบพื้นฐานของ prompt ที่ดี ควรประกอบด้วยการระบุวัตถุหรือบุคคลที่ต้องการ สถานที่หรือฉากหลัง องค์ประกอบเสริม และขนาดของภาพ

แต่สิ่งที่จะทำให้ภาพโดดเด่นจริง ๆ คือการใส่รายละเอียดเชิงศิลป์ เช่น สไตล์ที่ต้องการเลียนแบบ บรรยากาศ สีสัน หรือความรู้สึกที่อยากสื่อ

ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการภาพที่มีบรรยากาศอบอุ่นแบบชนบท คุณอาจเขียนว่า “บ้านไม้เล็ก ๆ ในทุ่งหญ้า แสงแดดยามเช้าโทนสีทอง ให้ความรู้สึกอบอุ่นและสงบ” แทนที่จะใช้คำสั้น ๆ อย่าง “บ้านในชนบท”

การฝึกฝนและทดลองเขียน prompt หลายรูปแบบจะช่วยให้คุณเข้าใจว่าแต่ละแพลตฟอร์มตีความคำสั่งอย่างไร บางโปรแกรม เช่น Canva มักทำงานได้ดีกับคำสั่งที่เรียบง่าย ในขณะที่ DALL-E จะตอบสนองได้ดีต่อคำสั่งที่ละเอียดและซับซ้อน

การแก้ไขและปรับปรุงภาพหลังการสร้าง

แม้จะเขียน prompt ได้ดี แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็อาจยังไม่สมบูรณ์แบบ การแก้ไขภาพหลังการสร้างจึงเป็นอีกขั้นตอนที่สำคัญ

เครื่องมือแต่ละตัวมีระบบแก้ไขที่แตกต่างกัน บางโปรแกรมอนุญาตให้ผู้ใช้แก้ไขรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นการปรับสีหรือองค์ประกอบ ขณะที่บางโปรแกรมอาจให้ความสามารถในการแก้ไขเชิงลึกมากกว่า

อย่างไรก็ตาม การแก้ไขมากเกินไปอาจทำให้ภาพเสียสมดุลและดูผิดธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น หากคุณพยายามปรับภาพเดิมซ้ำ ๆ หลายครั้ง ระบบอาจสร้างผลลัพธ์ที่บิดเบี้ยวหรือไม่สามารถใช้งานได้

ดังนั้นบางครั้งการเริ่มต้นใหม่ด้วย prompt ที่ปรับปรุงแล้วอาจให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการแก้ไขภาพเดิม

ความรับผิดชอบในการใช้ภาพ AI

อีกประเด็นที่ไม่ควรมองข้ามคือการให้เครดิตและการระบุว่าเป็นภาพที่สร้างด้วย AI

ในยุคที่ภาพจาก AI มีความสมจริงมากขึ้น การแยกแยะระหว่างงานศิลป์ที่มนุษย์สร้างกับงานที่ AI สร้างอาจเป็นเรื่องยาก

เพื่อความโปร่งใสและป้องกันความเข้าใจผิด ผู้สร้างควรระบุชัดเจนว่าภาพนั้นมาจากเครื่องมือใด เช่น “สร้างด้วย DALL-E” หรือ “สร้างด้วย Canva Magic Media”

บางแพลตฟอร์ม เช่น Meta AI จะใส่วอเตอร์มาร์กอัตโนมัติในภาพเพื่อบ่งบอกว่าเป็นงานจาก AI แต่หลายแพลตฟอร์ม เช่น DALL-E, Midjourney หรือ Leonardo ไม่ได้ทำเช่นนั้น

ดังนั้นผู้ใช้ควรรับผิดชอบในการใส่เครดิตเอง โดยเฉพาะเมื่อเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์

ประเด็นทางกฎหมายและจริยธรรม

แม้การสร้างภาพด้วย AI จะถูกกฎหมายในปัจจุบัน แต่ก็มีข้อถกเถียงและคดีความมากมายเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์

เนื่องจากระบบเหล่านี้มักใช้ฐานข้อมูลภาพที่มนุษย์สร้างขึ้นในการฝึกฝน ทำให้ศิลปินหลายคนกังวลว่าผลงานของตนถูกนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

บางบริษัท เช่น Adobe Firefly พยายามแก้ปัญหานี้ด้วยการใช้เฉพาะฐานข้อมูลที่ได้รับอนุญาตจาก Adobe Stock หรือภาพที่หมดอายุลิขสิทธิ์แล้ว เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าผลงานที่สร้างขึ้นสามารถนำไปใช้เชิงพาณิชย์ได้อย่างปลอดภัย

แต่ไม่ใช่ทุกแพลตฟอร์มที่จะมีแนวทางที่ชัดเจนเช่นนี้ ดังนั้นผู้ใช้ควรตรวจสอบนโยบายการใช้งานและการฝึกฝนโมเดลของแต่ละบริการก่อนเสมอ

…..

เรียบเรียงโดย AiNextopia