มิคา คอฟแมน (Micha Kaufman) ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Fiverr กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “AI กำลังมาแทนที่งานของทุกคน แม้กระทั่งงานของผมเอง” คำพูดนี้สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่โลกการทำงานกำลังเผชิญ และเป็นการเตือนให้ทั้งองค์กรและบุคคลต้องเร่งปรับตัว

การเปรียบเทียบกับเครื่องจักรไอน้ำ

คอฟแมนเปรียบสถานการณ์ปัจจุบันกับปี 1769 เมื่อเครื่องจักรไอน้ำถูกนำมาติดกับรถม้า ซึ่งเป็นเพียงการปรับปรุงเล็กน้อย แต่การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงเกิดขึ้นเมื่อมันถูกพัฒนาเป็นรถยนต์ เช่นเดียวกับ AI ที่ตอนนี้ถูกนำมาใช้ในงานซ้ำ ๆ เช่น การค้นคว้า การสรุปเอกสาร แต่ยังไม่ถึงขั้นพลิกโฉมโครงสร้างการทำงานทั้งหมด

ภาพลวงตาของ “ซูเปอร์พาวเวอร์”

หลายคนเชื่อว่า AI ทำให้มนุษย์มี “พลังพิเศษ” แต่คอฟแมนชี้ว่า หากทุกคนเข้าถึงเครื่องมือเดียวกัน ความได้เปรียบก็หายไป สิ่งที่สร้างความแตกต่างคือ ความคิดสร้างสรรค์ ประสบการณ์ และการตัดสินใจเชิงมนุษย์ ที่ AI ไม่สามารถแทนที่ได้

ความเร็ว + ทิศทาง = ความได้เปรียบ

เขาเน้นว่า “Velocity” หรือความเร็วที่มีทิศทาง คือหัวใจสำคัญของการแข่งขันในยุค AI องค์กรที่สามารถทดลอง เรียนรู้ และปรับตัวได้รวดเร็ว จะลดต้นทุนความผิดพลาดและสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง

เมื่อ AI แทนที่งานเดิม

คอฟแมนบอกพนักงานว่าให้ตั้งเป้าแทนที่งาน 100% ด้วย AI เพื่อให้เวลาที่เหลือถูกใช้ไปกับสิ่งที่ ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ เช่น การคิดเชิงกลยุทธ์ การใช้สัญชาตญาณ และการสร้างคุณค่าใหม่ ๆ ที่เป็นมนุษย์เท่านั้นที่ทำได้

ทักษะที่จำเป็นในโลกใหม่

• ความอยากรู้อยากเห็นและการทดลอง คือทักษะสำคัญที่สุด
• คนรุ่นใหม่ (Gen Z) มีความได้เปรียบเพราะเติบโตมากับเทคโนโลยี
• ต้องระวังไม่ให้ AI ทำให้เราขี้เกียจและหยุดพัฒนาความเชี่ยวชาญ
• ความชำนาญและการทำงานหนักยังคงเป็นสิ่งที่ไม่มีทางลัด

ความกังวลต่อสังคม

เขาเตือนว่า การแทนที่งานจะเกิดขึ้นเร็วมาก เช่น คนขับรถบรรทุกหรือแท็กซี่อาจตกงานเป็นล้าน ๆ คน แต่รัฐบาลยังไม่เตรียมการรองรับอย่างจริงจัง อีกทั้งการพัฒนา AI ส่วนใหญ่ยังอยู่ในมือเอกชน ซึ่งอาจนำไปสู่คำถามเรื่องการควบคุมและความปลอดภัยในอนาคต

มองไปข้างหน้า

คอฟแมนไม่กล้าทำนายอนาคตไกลเกินหนึ่งปี เพราะการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วเกินคาด เขาเชื่อว่า 99% ของสตาร์ทอัพ AI จะล้มเหลว แต่ผู้ที่อยู่รอดคือคนและองค์กรที่มีทักษะและคุณค่าที่แท้จริง ไม่สามารถถูกเลียนแบบได้ง่าย

สรุปสาระสำคัญ

• AI กำลังแทนที่งานซ้ำ ๆ และเปลี่ยนโฉมการทำงาน
• ความคิดสร้างสรรค์และการตัดสินใจเชิงมนุษย์คือสิ่งที่สร้างความแตกต่าง
• ความเร็วที่มีทิศทาง (Velocity) คือข้อได้เปรียบสำคัญ
• พนักงานควรใช้ AI เพื่อปลดปล่อยเวลาไปทำสิ่งที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้
• ทักษะที่จำเป็น: ความอยากรู้อยากเห็น ความยืดหยุ่น และการสร้างความเชี่ยวชาญ
• สังคมต้องเตรียมรับมือกับการแทนที่งานจำนวนมหาศาล
• อนาคตไม่แน่นอน แต่ผู้ที่ปรับตัวและสร้างคุณค่าที่แท้จริงจะอยู่รอด

…..

เรียบเรียงโดย AiNextopia